สร้างมากกว่าบ้านในเอเชีย

เมื่อเดนนิส ซีห์ได้เป็นผู้นำธุรกิจธัญพืชและพืชน้ำมันของคาร์กิลล์ในประเทศไทยเมื่อปี 2001 บริษัทกำลังประสบกับปัญหาบางอย่าง อัตราการหมุนเวียนพนักงานอยู่ที่ 100% การมีส่วนร่วมของพนักงานตกต่ำลง กำไรแทบไม่มีให้เห็น และสัมพันธภาพที่มีกับลูกค้าจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างมาก ซีห์จึงคิดกลยุทธ์ซึ่งไม่เคยมีใครคิดได้มาก่อน เพื่อช่วยทำให้สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้นอีกครั้ง เขาเลือกที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมกับองค์การที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติสากล

““พนักงานส่วนใหญ่ของเราแทบไม่คุ้นเคยกับการจับจอบจับเสียมเลย การสร้างบ้านในเวลาสองอาทิตย์จึงดูเหมือนเป็นไปแทบไม่ได้ แต่เราก็ทำมันได้สำเร็จ”
เดนนิส ซีห์ ผู้จัดการทั่วไป คาร์กิลล์ประเทศไทย

หลังจากได้เรียนรู้บทเรียนสำคัญเกี่ยวกับการทำงานเป็นทีมแล้ว ในปี 2002 ทีมงานของซีห์ได้เพิ่มความพยายาม โดยการเชิญชวนธุรกิจอื่นๆ อย่างซัน แวลลีย์ ประเทศไทย ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจสัตว์ปีกของบริษัทเข้ามาร่วมด้วย หลังจากนั้นไม่นาน ลูกค้าของคาร์กิลล์ก็ได้รับการเชิญชวนให้เข้ามาช่วยเหลือ โครงการประจำปี 2004 ได้รับความร่วมมือจากอาสาสมัครในธุรกิจต่างๆ ของคาร์กิลล์ประเทศไทย และพนักงานจากบริษัทของลูกค้า อย่างเบทาโกรซึ่งเป็นผู้ผลิตเนื้อสุกร เนื้อไก่ และผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ รวมทั้งสิ้น 56 คนช่วยสร้างบ้านให้แก่ครอบครัวสามครอบครัว

ต่อมา เมื่อเกิดภัยพิบัติคลื่นสึนามิถล่มประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ปี 2004 ผู้คนหลายพันคนต้องสูญเสียที่อยู่อาศัย พนักงานและลูกค้าของคาร์กิลล์ร่วมกันสร้างบ้านใหม่ให้แก่กลุ่มชาวประมงในจังหวัดภูเก็ต 49 หลังโดยใช้เวลาหกเดือน “บ้านของพวกเขา เรือของพวกเขา หรือพูดง่ายๆ เลยว่าพวกเขาต้องสูญเสียทุกอย่างไป” วารุณี ตันติวรวงศ์ ผู้จัดการสำนักงานและผู้ประสานงานความสัมพันธ์ในชุมชนให้กับคาร์กิลล์ในประเทศไทย กล่าว

“นี่คือความฝันอันสูงสุดของเรา…การมีบ้านใหม่”
ลู เหม่ย ยู ผู้รับบริจาคขององค์การที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติสากล ประเทศไทย

ตลอดระยะเวลาหกเดือนหลังเกิดเหตุสึนามิ ทีมงานที่คาร์กิลล์เป็นบริหารจัดการได้เดินทางไปสร้างบ้านในพื้นที่ดังกล่าวถึงห้าครั้ง แต่เนื่องจากเป็นโครงการที่ช่วยสร้างให้เฉพาะที่พักพิง ไม่ได้รวมถึงเรือสำหรับชาวประมงด้วย แมรี่ ลินน์ สเตลีย์ (ภรรยาของประธานกรรมการบริหารและประธานของคาร์ิกิลล์ นายวอร์เรน สเตลีย์) จึงออกเงินทุนส่วนตัวเพื่อซื้อเรือประมงให้ใหม่ 12 ลำ

กลยุทธ์ที่ซีห์ช่วยเหลือผู้อื่นทำให้เกิดประโยชน์ในระยะยาวแก่การดำเนินการต่างๆ ของคาร์กิลล์ในประเทศไทย คะแนนการมีส่วนร่วมของพนักงานเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าสองเท่า สัมพันธภาพที่มีกับลูกค้าแน่นแฟ้นขึ้น และทางแก้ไชปัญหาทางธุรกิจที่ถูกปรับอย่างเหมาะสมเข้ามาแทนที่ธุรกรรมต่างๆ บริษัทมีกำไร และคาร์กิลล์ได้รับการยอมรับจากองค์การที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติสากลว่าเป็นพันธมิตรของบริษัทที่โดดเด่น “แรงดึงดูดใจเป็นเรื่องที่ง่ายมาก” ซีห์กล่าว “ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเรา ซึ่งคือผู้คนที่อาศัยอยู่ในชุมชนเหล่านี้ บรรดาพนักงาน ลูกค้า และคนอื่นๆ ต่างก็มีความสุขจากการสนับสนุนนี้” 

หลังจากเหตุการณ์สึนามิที่ก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงเมื่อปี 2004 คาร์กิลล์ช่วยหาเรือและสร้างบ้านให้แก่ชาวประมง 49 ครอบครัวในจังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย