นำพลังใหม่มาให้กับบริษัทที่มีพื้นฐานที่ดีแล้ว

ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 1999 เพียงหนึ่งวันหลังจากที่พวกเขาได้พบกันเพื่ออนุมัติกลยุทธ์ใหม่สำหรับCargill กรรมการผู้จัดการทั้งห้าของบริษัท Ernie Micek, Warren Stanley, Guillaume Bastiaens, Robert Lumpkins และ David Raisbeck ได้ประกาศอย่างเป็นทางการให้กับพนักงานของ Cargill ว่าปีถัดๆ ไปนี้จะเป็นอะไรที่แตกต่าง

Cargill นั้นใหญ่และซับซ้อนมากจนมันกลายเป็นความท้าทายมากที่จะนำมัน วัฒนธรรมของบริษัทนั้นจำเป็นต้องเปลี่ยนไป, และหน่วยธุรกิจต่างๆ นั้นจำเป็นต้องมุ่งเน้นออกไปด้านนอกสู่ลูกค้าของพวกเขา กรรมการผู้จัดการทั้งห้าได้ร่วมกันร่างยุคใหม่ของการเจริญเติบโตทางด้านธุรกิจที่ถูกกำหนดโดยการเน้นไปทางด้านลูกค้า นวัตกรรม และประสิทธิภาพที่สูงให้เพิ่มมากขึ้น

แผนนี้ถูกนำเสนอมาในรูปแบบแผนยุทธศาสตร์ของ Cargill โครงร่างที่จะปรับงกลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัทใหม่และสานสัมพันธ์กับลูกค้าให้แน่นแฟ้นขึ้น ด้วยการดำเนินงานในหลากหลายตลาดและอุตสาหกรรมทั่วโลก Cargill จะมุ่งเน้นในช่วงทศวรรษต่อไปนี้ในการนำความหลากหลายและความเชี่ยวชาญไปในการช่วยเหลือกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น

“เมื่อลูกค้านึกถึง Cargill เราต้องการให้พวกเขานึกว่าเราเป็นบริษัทที่มอบโซลูชั่นที่ทำให้พวกเขาสามารถประสบความสำเร็จได้ในธุรกิจของพวกเขา”
— Ernie Micek, CEO ของ Cargill

ในปี 2007 Cargill ก็ได้กลั่นกลองแผนของมันเพิ่มขึ้นไปอีกจนกลายมาเป็น เจตนารมณ์เชิงกลยุทธ์ปี 2015 ซึ่งกลายเป็นที่รู้จักกันในนาม SI ในที่สุด การแก้ไขครั้งนี้ได้ลงรายละเอียดเพิ่มเติมขึ้นในส่วนของเป้าหมายเฉพาะเจาะจงที่ทางบริษัทมุ่งมั่นที่จะทำให้ประสบความสำเร็จขณะที่ใกล้วันครบรอบ 150 ปีเข้ามาทุกที ถูกพัฒนามาในรูปแบบ "คำแนะนำสำหรับการเลือก" SI ได้รับการปรับปรุงเพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกันภายใน Cargill ยกเลิกการทำงานแบบเป็นไซโลและส่งเสริมให้มีการทำงานร่วมกันระหว่างกลุ่มธุรกิจแต่ละกลุ่มเพื่อช่วยให้ลูกค้าได้บรรลุเป้าหมายของพวกเขา

ห้าสมาชิกของทีมผู้นำของ Cargill ประกาศเจตนาเชิงกลยุทธ์ของ บริษัทฯ ซึ่งได้กำหนดทิศทางและความทะเยอทะยานของตนไว้สำหรับอนาคต

การพัฒนา SI นี้ขึ้นมาช่วยทำให้ Cargill กลายเป็น "พันธมิตรที่ลูกค้าต้องการ" สำหรับบัญชีลูกค้าที่มีอยู่มากมาย ตำแหน่งนี้มีหมายความว่า Cargill ได้ทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดเพื่อนำเสนอโซลูชั่นที่จัดทำมาให้โดยเฉพาะที่ขับเคลื่อนด้วยผลกำไรที่บริษัทอื่นไม่สามารถทำให้ได้ ตัวอย่างแรกๆ ของการเคลื่อนไหวนี้คือผลงานที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของบริษัทร่วมกับบริษัท General Mills แม้ว่า Cargill นั้นเป็นผู้จัดจำหน่ายส่วนผสมให้แก่ General Mill มาเป็นเวลานาน SI นั้นได้เป็นแรงบันดาลใจให้ Cargill มองความสัมพันธ์นี้เป็นโอกาสสำคัญสำหรับการทำงานร่วมกัน บริษัททั้งสองต่างร่วมมือกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่หลายตัว รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ข้าวโพดธัญพืชไม่ขัดสีที่ไม่ซ้ำใคร ซึ่งสนับสนุนความมุ่งมั่นของ General Mills ที่จะนำเสนอธัญพืชไม่ขัดสีไปยังกลุ่มผลิตภัณฑ์ซีเรียลที่เป็นที่นิยมของพวกเขา

และความสัมพันธ์ก็ยังคงดำเนินต่อไปเป็นตัวอย่างของบทบาทที่แตกต่างที่ Cargill มีต่อลูกค้าของมัน “เราตระหนักว่าเราสามารถเพลิดเพลินไปกับความสำเร็จที่มากขึ้นร่วมกันดีกว่าความสำเร็จของเราเพียงฝ่ายเดียว” Peter Erickson, รองประธานบริหารฝ่ายนวัตกรรม เทคโนโลยี และคุณภาพของ General Mills ได้กล่าวไว้

วันนี้ความพยายามของ Cargill ในการผันตัวเองให้เป็นพันธมิตรที่ลูกค้าต้องการสำหรับลูกค้าที่เพิ่มขึ้นนั้นยังคงดำเนินต่อไป แล้วบริษัทจะทราบได้อย่างไรว่ามันประสบความสำเร็จแล้ว ก็เมื่อลูกค้าไม่สามารถจินตนาการการทำงานร่วมกับคนอื่นได้