skip to main content

รูปภาพผู้นำ: Warren Staley

ในฐานะ CEO ในช่วงปี 1999 ถึงปี 2007 นักคิดหัวก้าวหน้าอย่าง Staley ได้เปลี่ยนการมุ่งเน้นของ Cargill ไปในทางการสานความสัมพันธ์กับลูกค้าและบำรุงรักษาโลกใบนี้ 

January 01, 2015

ในปี 1966 Warren Staley ได้ฝึกงานภาคฤดูร้อนกับ Cargill ในฐานะหน่วยประมวลผลข้อมูล และเพียงไม่กี่เดือนนั้นเองก็เพียงพอที่จะทำให้ Staley ตระหนักว่า Cargill นั้นเป็นที่ที่เขาควรอยู่ ในช่วงเวลานั้น บริษัทกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วไปทั่วโลก ซึ่งถือเป็นโอกาสที่จะทำให้ Staley หลงใหล หลังจากที่ได้เข้าร่วมงานกับบริษัทในปี 1969 ทศวรรษแล้วทศวรรษเล่า Staley ก็ได้ไต่อันดับขั้นในองค์กรขึ้นไป เขาดำรงตำแหน่งในอังกฤษและอาร์เจนตินาเช่นเดียวกับทวีปอเมริกาเหนือและละตินอเมริกาสร้างความประทับใจให้เพื่อนร่วมงานด้วยจรรยาบรรณในการทำงานและลักษณะการทำงานที่มุ่งเน้นการเป็นทีมของเขา พวกเขาอธิบายเขาไว้ว่า “กล่าวถึงไว้อย่างไม่เต็มที่ มีภาพลักษณ์ที่ไม่ฉูดฉาด ฟังมากกว่าพูดแต่เป็นคนที่คงเส้นคงวาและไม่หยุดยั้งที่จะไปให้ถึงเป้าหมายที่ได้ตกลงกันไว้”

ในปี 1999 เป็นเวลา 30 ปีหลังจากที่เขาเข้ามาเริ่มงานในธุรกิจโม่ข้าวโพดของ Cargillพอดี Staley ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Cargill คนใหม่ มันเป็นช่วงเปลี่ยนศตวรรษและจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในแนวความคิดที่ Cargill “การคงอยู่ในรูปแบบเดิมนั้นไม่ใช่หนทางของเรา” Staley อธิบายให้พนักงานฟัง “เราจำเป็นต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าของเราให้ได้ดีกว่าคู่แข่งของเราและในบางกรณีต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าของเราให้ได้ดีกว่าตัวลูกค้าเองด้วยซ้ำ”

เป็นข้อความที่ชัดเจน Cargill จะมุ่งเน้นความสนใจของมันออกไปด้านนอก สานสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับลูกค้าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทำงานร่วมกันกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดมากขึ้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่จำเพาะต่างๆ ของพวกเขา

“เราต้องยอมรับและเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงเพื่อความสำเร็จและการเจริญเติบโตต่อไป”
— Warren Staley, ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Cargill

แผนใหม่ของCargillนี้เรียกว่า เจตนารมณ์เชิงกลยุทธ์ เป็นกรอบทีส่งเสริมการเป็นผู้นำร่วมและความหลากหลายของอุตสาหกรรมเพื่อทำให้ Cargill นั้นแตกต่างออกไปจากคู่แข่งในรูปแบบของ "พันธมิตรที่ลูกค้าต้องการ" ของลูกค้าทุกคน

การผลักดันเพื่อตำแหน่งในตลาดที่แตกต่างนี้ยังได้นำไปสู่การทำรีแบรนด์ขึ้นมาใหม่ในปี 2002 Staley ได้นำเสนอวัตถุประสงค์ใหม่ของบริษัทในการเป็น "ผู้นำระดับโลกในการบำรุงรักษาคน" แนวคิดที่แผ่ขยายไปเกินกว่าแค่อาหารและการเกษตร “วิสัยทัศน์ของเราคือการบำรุงรักษาผู้คนในสถานที่ที่เรามีการดำเนินการ” เขาได้กล่าวไว้ การมุ่งเน้นของ CEO ในเรื่องการเพิ่มคุณค่าให้แก่ชุมชนให้นำพาทีมอาสาสมัครไปยังหลายประเทศทั่วโลก ในประเทศเคนย่า Cargill ได้ให้การสนับสนุนยาในการรักษาพยาธิให้แก่เด็กกว่า 150,000 คน ในประเทศเวียดนาม พนักงานได้ทำการสร้างโรงเรียนที่เพียบพร้อมขึ้นมา และในเม็กซิโกพวกเขาก็ได้ร่วมสร้างบ้านพักอาศัยหลายสิบหลังกับมูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติ ในระหว่างที่ Staley ดำรงตำแหน่ง Cargill ได้รับรางวัลด้านการกุศลหลากหลายรางวัล ซึ่งรวมไปถึงรางวัล Excellence in Community Service ในปี 2001 จากมูลนิธิ Points of Light

หลังจากการนำกว่าเก้าปี, Staley ได้เกษียณในปี 2007 พร้อมทิ้งมรดกของการทำงานร่วมกันไว้ให้เป็นรากฐานที่สำคัญให้แก่ Cargill จนถึงทุกวันนี้ ผลงานสุดท้ายที่เขาฝากไว้คือสถาบันฝึกสอนความเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพสูงของ Cargill ที่ได้ทำการฝึกสอนให้แก่ผู้นำของบริษัทกว่า 12,500 คนซึ่งรวมถึง CEO คนปัจจุบันของบริษัท คุณ David MacLennan ด้วย “[ในตอนนี้เรามี] ศูนย์การเรียนรู้ความเป็นผู้นำ Staley” MacLennan ได้อธิบายไว้ “เพราะว่าเขาได้เปลี่ยนแปลงวิธีการที่ Cargill คิดเกี่ยวกับการเป็นผู้นำไป” อดีต CEO Greg Page ได้สรุปผลงานของ Staley ในการพัฒนา Cargill ไว้ดีที่สุดว่า: “เขาได้นำการเปลี่ยนแปลงของบริษัทให้กลายเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นแก่ลูกค้า เขาก่อตั้งรูปแบบใหม่ของการเป็นผู้นำร่วม และเปลี่ยนโฉมองค์กรไปในทิศทางสร้างการเจริญเติบโตแบบใหม่ขึ้นมาและเขาก็ยังเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องของการเป็น corporate citizen อีกด้วย”

Warren Staley Inpage

ในปี 1969 Staley ผู้เยาว์วัย (ที่สามจากซ้าย) เริ่มต้นอาชีพของเขาที่ Cargill ในการเป็นพ่อค้า และไต่เต้าขึ้นมาจนได้เป็น CEO ในปี 1999